ผมว่าการเดินทางนี่มันก็ดีไปอย่างนะครับ มันบอกเล่าเรื่องราวต่างๆในชีวิตคุณได้เป็นอย่างดี ลองเปรียบเทียบดูง่ายๆนะครับ
ตอนเป็นเด็ก คุณก็เที่ยวแบบเด็กก็ได้ประสบการณ์แบบเด็กๆไป
ตอนเป็นวัยรุ่น วันที่กำลังสนุกสนาน วัยนี้เป็นวัยที่ครั้งหนึ่งในชีวิตของคุณที่เจอเลยบางคนใช้มันแบบสุดไปเลย
ตอนเข้าวัยทำงาน วัยทำงานก็พบประสบการณ์ใหม่ บางคนมีครอบครัว มีลูกมีทุกอย่างพร้อมแล้ว
แต่คุณเชื่อไหมครับว่า บางทีสถานที่เดียวกันที่คุณไปแต่เราไปในช่วงเวลา หมายถึงช่วงอายุที่แตกต่างกัน มันก็ให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันนะครับ บางประสบการณ์ทำให้เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น บางประสบการณ์ก็ทำให้เราเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง ทุกครั้งที่ไปพบเจอได้ท่องเที่ยวไปเจอสิ่งใหม่ๆ สิ่งที่ตัวผมได้ก็คือ มนุษย์เราต่างต้องการอิสภาพแน่นอนทีเดียวครับ ย้อนหลังไปยุคโบราณ มนุษย์ไม่ต้องชิ่งดี ชิ่งเด่นกันทุกคนใช้ชีวิตปกติ ท่องเที่ยวไปในโลกกว้างได้ มีอิสระอย่างเต็มที่
แต่พอมาถึงยุคทุนนิยม เราวัดค่าความสุขและความมั่งคั่งไปที่สิ่งภายนอก เงินจึงกลายเป็นสื่อกลางที่สำคัญในการแลกเปลี่ยนและขาดไม่ได้ ในอนาคตโลกจะเปลี่ยนไปในทิศทางใดก็ยากจะเข้าใจได้ แต่สิ่งที่ผมคิดก็คือ ทุกคนควรเป็นตัวของตัวเอง มีอิสระที่จะคิด ที่จะตัดสินใจ กล้าเดินออกจากจุดเดิมของตัวเองแล้วไปเห็นโลกใหม่ในมุมมองใหม่ๆ อย่าจำกัดตัวเอง เพราะชีวิตเราเกิดมาแค่ครั้งเดียว
ข้อแนะนำอีกอย่างนะครับ อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วครับ เพราะชีวิตยังมีอะไรที่คุณไม่รู้อีกมากมาย จงทำตัวเองเป็นน้ำครึ่งแก้วที่พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา บางทีสิ่งใหม่ๆนี่แหละอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเราไปตลอดกาลได้เลย ไม่มีใครเก่งโดยไม่ฝึกฝนตัวเองหรอกครับ ผมชอบเขียนหนังสือแต่ผมก็ไม่ได้เป็นคนเขียน ทุกวันก็ยังต้องฝึกฝนเรียนรู้ พัฒนาตัวเองไปอย่างต่อเนื่อง เพราะผมมีความเชื่อมั่นลึกๆว่า สักวันผมต้องประสบความสำเร็จในการเป็นนักเขียนอย่างแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น