วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2560

จิตวิทยากับศาสนา


สองสิ่งเหมือนไกลกันเหลือเกินนะครับ  แต่แท้จริงแล้วมันคือส่วนหนึ่งของกันและกัน

จิตวิทยา คือ ส่วนหนึ่งของศาสนาพุทธเราเลย  ผมได้อ่านหนังเกี่ยวกับจิตวิทยามาพอสมควร  ผมว่าจิตวิทยามีความเป็นวิทยาศาสตร์และหลักศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก  วันนี้ขอยกตัวอย่างนะครับ เช่น

1.แนวคิดจิตวิทยาสอนว่า ให้เราอยู่กับความกลัวอาศัยความกลัวเป็นตัวให้เราก้าวไปข้างหน้า  ความกลัวสามารถขจัดออกไปได้ด้วยการเปลี่ยนความคิดและมุมมองใหม่ๆ

2.การนั่งสมาธิ หรือ การฝึกจิต เป็นเรื่องที่ศาสนาพุทธสอนมาหลายพันปีแล้ว นักจิตวิทยาก็ยังมีความเชื่อในเรื่องนี้เช่นกัน

3.สาเหตุที่เรื่องจิตวิทยาน่าสนใจและผู้คนศึกษามากกว่าหลักศาสนาก็เพราะว่า  ศาสนาเป็นเรื่องลึกซึ้งมาก  ต้องรู้ได้เฉพาะตนบางทีเอามาเขียนเป็นหนังสือยังไม่สามารถตีความให้ละเอียดได้

4.จุดมุ่งหมายต่างกัน จิตวิทยาส่วนใหญ่เป็นการแก้ปัญหาความทุกข์ แก้ปัญหาทางโลกเป็นส่วนใหญ่ แต่หลักศาสนาส่วนตัวผมมองว่าตำรามักไปเน้นเรื่องที่ไกลตัว อยากให้หลุดพ้น ตัดกิเลสได้ ทำให้ไม่เหมาะกับคนในยุคนี้เท่าใดนัก ควรปรับหนังสือในแบบฉบับที่ทุกคนก็สามารถเข้าถึงได้ดีกว่า

นี่ก็เป็นแค่ตัวอย่างของจิตวิทยาและศาสนา รวมทั้งข้ัอแตกต่างเล็กน้อยที่เกิดขึ้น  แท้จริงแล้วผมมองว่ามันอยู่ที่การนำเสนอมากกว่า  ว่าเราจะนำเสนอในรูปแบบไหน  ทุกอย่างไม่ผิด ไม่ถูก ในแง่มุมของผมสิ่งที่ผมอยากจะเปลี่ยนแปลงก็คือ

1.หนังสือเกี่ยวกับศาสนา  อยากให้เน้นในเรื่องการแก้ปัญหาทางโลกให้ได้ก่อน  จากนั้นค่อยๆให้บุคคลที่สนใจพัฒนาต่อยอดเขาไปเองในเรื่องที่ลึกซึ้ง อย่าทำให้เรื่องศาสนาเป็นเรื่องที่ซับซ้อนเข้าใจยาก  ตำราเขียนมาก็เพื่อเป็นศาสตร์เท่านั้น แก่นแท้ก็คือจิต ภายในของเราครับที่สำคัญที่สุด เอาตามความเหมาะสมของคุณดีกว่า

2.หนังสือเกี่ยวกับการประสบสำเร็จ  แปลกมากนะครับในยุคนี้มีแต่คนเขียนเคล็ดลับ โน่น นั่น นี่ว่ามีวิธีลัดบ้างละที่จะทำให้รวย ประสบความสำเร็จ  ไม่ต่างอะไรจากหนังสือที่วิ่งไปตามกระแสมากกว่า  ในที่สุดหนังสือเหล่านี้ก็ไม่ต่างอะไรจากกองขยะที่รอวันทิ้ง  ผมว่าเรามาทำหนังสือเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาจิตเราดีกว่า  ทำอย่างไรจะให้จิตเป็นเศรษฐีได้ ทำจิตอย่างไรให้เป็นอิสระต่อปัจจัยภายนอก สิ่งเร้าหรือสิ่งกระทบ  จะพัฒนาตัวเองอย่างไรก่อนจะไปพัฒนาสิ่งอื่น ทุกวันนี้มันวุ่ยวายไปหมดเพราะกระแสค่านิยมที่เราวิ่งตามๆกัน

3.ประเทศไทยหนังสือเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์น้อยมากครับ  ไม่ว่าจะทางทีวี หรือสื่อต่างๆ แท้จริงแล้วจินตนาการเป็นสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้หาใช่ สื่อบันเทิงใหม่  ผมเห็นรัฐออกมาสนับสนุนนะครับ  แต่ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง  เราต้องปลูกฝังที่รากหญ้าครับ  กระตุ้นให้คนมีความคิดสร้างสรรค์  อย่าไปจำกัดกรอบ  บางทีผมก็แอบเศร้าไม่หายที่คนไทยไปโด่งดังที่เมืองนอก แต่ในบ้านตัวเองกลับไม่มีคนรู้จัก

4.เลิกทำนิสัยตามๆกัน  วัฒนธรรมคนไทยกับกระแสที่ทำอะไรตามๆกันเลิกเถอะครับ เช่น สถานที่ท่องเที่ยวที่คนนิยมไป  ที่พัก ร้านอาหารที่คนนิยมไป  กระแสอินเตอร์ทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเอง เราเอาแต่ค่านิยม ความเท่ห์  จนหลงลืมสิ่งภายในของเราไปแล้ว  สุดท้ายก็หลงทางไปตามๆกันไม่ต้องไปโทษใครเลยครับ  คุณนั่นแหละที่ต้องโทษตัวคุณเอง

วันนี้อากาศดีมากครับ ขอให้คุณสดใสและมีความสุขไปตามๆกันครับ  วันนี้สวัสดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...