ผมเคยพูดกับตัวเองเสมอว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ทุกวันนี้เราเดินมาถูกทางหรือไม่ เราต้องไปข้างหน้าต่อดีไหม หรือจะหยุด ในหลายๆครั้งรู้สึกสับสนกับชีวิตของตัวเอง บางทีการได้ทำอะไรที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ต่างๆที่เราได้กำหนดไว้อาจดีก็ได้
รู้สึกว่าบางทีเราก็มาไกลจากจุดเริ่มต้นมากขึ้นทุกที เป้าหมายที่วางไว้ก็ยังมองหาหนทางที่จะไปหามันช่างยากยิ่ง หนทางที่ผมกำลังเดินช่างยากเย็นมากมาย ในขณะเดียวกันก็พบคำตอบหลายๆเรื่อง มันเริ่มปรากฎชัดเจนมากขึ้น (วิธีการเราอาจเปลี่ยนแปลงได้แต่เป้าหมายยังคงเดิม)
การวางแผนทางการเงินและการเตรียมความพร้อมเพื่อพาตัวเองไปสู่ความสำเร็จในชีวิต ถือเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญมากๆ การขาดความรู้ทางด้านการเงินจึงเป็นเรื่องที่อันตรายเอามาก ๆ การมีความรู้ก็เปรียบเสมือนอาวุธที่จะนำเราไปสู่เส้นชัยได้ อิสรภาพทางการเงินก็ต้องเริ่มจากการปลดปล่อยจากตัวเองให้เป็นนายของเงิน
คำถาม ต่อมาก็คือเเล้วต้องเริ่มจากจุดไหนละ ก็ในเมื่อมีหนี้สินไปหมดแล้ว (ต้องวางแผนการเงินใหม่อย่างเดียวครับ) อะไรที่ไม่จำเป็นตัดได้ก็ตัดไปก่อน อย่าพยายามสร้างหนี้ใหม่ สร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน เมื่อคุณมีเงินพอใช้ในระดับหนึ่งที่ไม่เดือนร้อน ทีนี้เราต้องมาวางแผนการเงินเพื่ออิสรภาพกันได้แล้วครับ
รู้จักอดทน อดเปรี้ยวไว้กินหวาน (รสชาติมันหอมหวานกว่ามากกว่าครับ) พยายามใช้หนี้ให้หมดแล้วเดินหน้าทางการเงินอย่างมีวินัย ผมเชื่อมั่นมากเลยครับว่า ถ้าเราวางแผนไว้อย่างดีทุกอย่างต้องเป็นไปตามแผนอย่างแน่นอน นึกภาพของตัวเองให้ชัดในอีกห้าปีข้างว่าคุณต้องการอะไร แล้วเดินหน้าไปให้ได้ รู้ว่าตัวเองเป็นใคร และทำหน้าที่รับผิดชอบตัวเองให้ดีที่สุด มีความสุขและพร้อมที่จะเดินหน้าได้เสมอ ปัญหามีอยู่ทุกที่ ค่อยแก้กันไป มีสติกับการใช้ชีวิตอยู่ทุกลมหายใจ อยู่กับปัจจุบัน ไม่ไปกังวลกับ อนาตคที่ยังมาไม่ถึง
ชีวิตมันมีทางไปได้เสมอ ไม่มีทางตันหรอกครับมีแต่คุณต้องกล้าออกไปเผชิญหน้ากับปัญหาเท่านั้น ปัญหาอุปสรรค์ยิ่งใหญ่ ความสำเร็จก็ใหญ่ไปตามกัน การไม่กล้าเผชิญหน้ากับปัญหา ยิ่งคุณสะสมปัญหาไว้มากเท่าไร วันหนีึ่งปัญหานั้นแหละครับจะกลับมาทำร้ายตัวเราได้ ชีวิตนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอน สิ่งที่แน่นอนและเป็นไปได้คือ การลงมือทำและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทันที การวางแผนและลดความเสี่ยงจากปัญหาที่เกิดขึ้นย่อมทำให้เราสามารถลดปัญหาได้
คนเราคิดต่างได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่สามารถเดินไปในเป้าหมายเดียวกันได้ ทุกๆความสำเร็จล้วนต้องอาศัยการทำงานกันเป็นทีม เราไม่สามารถเดินไปคนเดียวได้หรอกต้องอาศัยบุคคลหรือทีมงานที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทั้งนั้น ฉะนั้นจงขอบคุณเขา และแสดงว่ามีน้ำใจต่อเขา เห็นใจเขาดังที่เราเห็นใจเพื่อร่วมเกิดแก่เจ็บตายของเรา มองทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดา ปล่อยวางกับปัญหา ฝึกใช้สติปัญญา ความคิดที่แตกต่าง ล้วนสร้างความแตกต่างให้กับตัวคุณ
ความกลัวไม่มีอยู่จริง คุณสร้างมันขึ้นมาเอง ทลายกำแพงความกลัวทุกอย่าง ก้าวข้ามมันไปให้ได้ เมื่อผ่านจุดหนึ่งได้ คุณก็จะเติบโตและก้าวขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง บททดสอบชีวิตมันยากแต่ถ้าวางแผนซะอย่างคุณก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร เพราะคุณสำเร็จได้อยู่แล้ว ขอให้อดทนและสู้ต่อไปครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น