เราย้อนไปเมื่อสมัยหลายล้านปีก่อนมนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่เดินแร่ร่อนไปเรื่อยๆ
แล้วก็ค่ำไหนนอนนั้นประทั่งชีวิตด้วยการล่าสัตว์และเก็บพืชผักกินไปเรื่อยๆ แต่ว่าจนวันหนึ่งมนุษย์ก็เริ่มรู้จักที่จะลงหลักปักฐาน เริ่มรู้จักที่จะสร้างเป็นหมู่บ้าน
ชุมชนเพื่ออยู่ร่วมกัน
วันนั้นเองครับมนุษย์ก็เริ่มรู้สึกว่าไม่อยากไปไหนนอกหมู่บ้าน
หรือออกไปไหนไกลๆ ซึ่งมันก็ดูสมเหตุสมผลที่เพราะการออกไปนอกหมู่บ้านก็เต็มไปด้วยอันตรายเต็มไปหมด
ซึ่งถ้าเราไปดูแผนที่สมัยก่อนจะมีบริเวณบางที่เป็นพื้นที่ต้องห้าม
ก็เลยเป็นเหตุผลว่าคนส่วนใหญ่ก็เลยไม่กล้าเดินทางออกไป
แต่ว่าคนบางคนก็มองว่าความเสี่ยงเหล่านี้ก็คือโอกาส
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้มันก็เป็นผลลัพธ์ที่น่ายินดี อย่างคริสเตอร์เฟอร์ โคลัมบัส ก็เดินทางไปยังที่ๆคิดว่าจะมีมังกร
แต่ในที่สุดเข้าก็ไปค้นพบทวีปอเมริกา เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ไม่กล้าไปเสี่ยงก็เพราะว่ามนุษย์กลัวอะไรก็ตามแต่ที่มันไม่แน่นอน
เพราะอนาคตเราไม่สามารถทำนายได้ว่าจะดีหรือร้าย ดังนั้นมนุษย์ก็เลือกที่จะอยู่กับปัจจุบัน
ก็เลยเลือกที่จะไม่ทำอะไรใหม่ๆ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด
นี่คือสิ่งที่เราได้เรียนรู้
การที่เราไม่ลงมือทำอะไรใหม่ๆ
ไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรดีๆให้กับโลกใบนี้ เมื่อ 1,000
ปีที่แล้วคนที่มีอำนาจมากพอที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกให้กับคนหมู่มากได้เขาคือ
ชนชั้นพระราชา กษัตริย์ หรือราชินี เวลาผ่านไปสัก
100 ปีที่คนที่ก้าวเข้ามาเพื่อเปลี่ยนแปลงให้กับมวลมนุษย์ชาติได้ เขาคือ
นักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ มหาตมะ คานที
แต่เมื่อผ่านยุค
100 ปีที่ผ่านมามันเป็นยุคของคนที่ NO BODY นั่นก็คือ คนอย่างเราๆนั้นแหละ
คนธรรมดาที่ไม่ต้องมีชื่อเสียงเรียงนามมาจากไหน
ก็สามารถลุกขึ้นมาสร้างความเปลี่ยนแปลงได้เหมือนกัน 41 ปีที่แล้วไม่มีใครรู้จัก
สตีฟ จอบส์,บิลเกตส์ หรือ มาร์คซัคเคอร์เบิร์ก
แต่ว่าคนเหล่านี้เขาลุกขึ้นมาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลก
จนถึงขนาดมันเป็นส่วนหนึ่งที่เราขาดไม่ได้เลย
ถ้าวันนี้คุณรู้ตัวว่าคุณมีความฝัน ที่จะทำอะไรก็ตามไม่ว่ามันจะเล็กหรือใหญ่ แล้วคุณรู้ตัวว่าวันนี้คุณก็ไม่พร้อม
ผมบอกได้เลยครับว่าวันนี้มันเป็นวันที่เหมาะที่สุดแล้วครับที่คุณจะลงมือทำ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ที่สำคัญนะครับ คุณไม่จำเป็นจะต้องกลัวเลยครับว่าคุณจะล้มเหลว เพราะว่าความล้มเหลวกับความผิดพลาดมันเป็นคนละอย่างกัน คุณสามารถผิดพลาดได้เป็นพันเป็นหมื่นครั้ง ไม่ได้หมายความว่าจะล้มเหลว เพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะว่าไม่มีใครนิยามความล้มเหลวให้คุณเองนอกจากตัวคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น