ฮิลตัน (Hilton) เป็นเจ้าของกิจการโรงแรมยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาและมีสาขาอยู่ทั่วโลก สมัยวัยรุ่นเขาเคยลำบากยากจนมาก่อน เมื่อใจคิดอยากเปลี่ยนแปลงสภาพปัจจุบัน เขาจึงแสวงหาความร่ำรวยทุกหนทุกแห่ง มีวันหนึ่งขณะที่เขากำลังเดินช้อปปิ้ง พบว่าแม้เขตเชิงพาณิชย์ของดัลลัส (Dallas) จะเจริญมาก แต่กลับมีโรงแรมหรูเพียงแค่แห่งเดียว เขาคิดว่าในเมื่อมีคนผ่านไปมาพลุกพล่านเช่นนี้ หากจะมีโรงแรมหรูสักแห่ง ย่อมต้องมีลูกค้าหมุนเวียนเข้ามาอย่างแน่นอน
หลังจากศึกษาและวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้ว ฮิลตันจึงสนใจที่ดินผืนหนึ่งในย่านธุรกิจดััลลัสเขาจึงรีบเดินทางไปหาเจ้าของที่ดิน สอบถามราคาที่ดิน ซึ่งฝ่ายนั้นเปิดราคาขายที่สามแสนดอลลาร์สหรัฐ เวลานั้นเขามีเงินแค่ 5 พันดอลลาร์สหรัฐ แม้แต่ที่ดินครึ่งผืนก็ยังซื้อไม่ได้ แต่เขาไม่เคยท้อถอย และใช้เงินที่มีอยู่เซ้งโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่ง เริ่มบริหารอย่างตั้งใจ ผ่านไปไม่นาน เขาก็หาเงินได้จำนวนมาก รวมกับเงินที่เพื่อนให้ยืมบางส่วน ในมือของฮิวตันจึงมีเงินทุนเพิ่มเป็นหนึ่งแสนดอลลาร์สหรัฐ
ครั้นแล้วฮิวตันจึงกลับมาหาเจ้าของที่ดินอีกครั้งและพูดกับเขาว่า
"ผมต้องการซื้อที่ดินของคุณเพื่อสร้างภัตตาคารหรูๆ แต่ผมเงินทุนไม่พอ ดังนั้น หวังว่าคุณจะให้ผมเช่าที่ดินผืนนี้ ระยะเวลาในการเช่าของผมคือ 100 ปี โดยจะเเบ่งจ่ายค่าเช่าปีละสามหมื่นดอลลาร์สหรัฐ คุณจะยังคงมีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของที่ดินดังเดิม ถ้าผมไม่จ่ายเงินตามเวลา คุณก็ยึดที่ดินคืนพร้อมกับภัตตาคารที่ผมสร้างบนที่ดินผืนนี้ไปได้เลย"
เจ้าของที่ดินไม่ลังเลและรับรับปากตามข้อเสนอของเขาทันที เพราะถ้าเขาขายที่ดินก็จะได้เงินเพียงสามแสนดอลลาร์สหรัฐก้อนเดียว แต่กลับต้องเสียอำนาจในการเป็นเจ้าของที่ดินไป และเมื่อเทียบกับการเเบ่งจ่ายแต่ได้รับผลประโยชน์ถึงสามล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งยังรักษากรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของที่ดินได้อีกด้วย ย่อมต้องเลือกอย่างหลัง ซึ่งให้ผลลัพธ์คุ้มค่ามากกว่าแน่นอน
หลังจากเจรจาต่อรองเรียบร้อย ฮิลตันจึงจ่ายเงินค่าเช่าปีแรกไป ในเวลานั้นในมือเขามีเงินเหลือเพียง 7 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ ต่อมาเขาได้หาสถาปนิกและสอบถามว่าหากต้องการสร้างโรงแรมในดวงใจของเขาแห่งหนึ่งจะต้องจ่ายเงินมากเท่าใด หลังจากที่สถาปนิกได้คำนวณแล้วก็บอกกับฮิลตันว่า ต้องใช้อย่างน้อยหนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐ
ฮิลตันจึงไปหาเจ้าของที่ดินอีกครั้ง และพูดโน้มน้าวให้เขาเห็นด้วยที่จะนำโฉนดที่ดินไปจำนองกับธนาคาร สุดท้ายฮิลตันก็ได้รับเงินกู้จากการจำนองที่ดินถึง 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ เวลานั้นในมือของเขามีเงินทั้งหมด 370,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ในเวลาต่อมา เขาไปหานักธุรกิจท่านหนึ่ง ขอร้องให้ร่วมเปิดโรงแรมแห่งนี้กับตน จนในที่สุดนักธุรกิจท่านนี้จึงร่วมหุ้นอีก 2 แสนดอลลาร์สหรัฐ เช่นนี้จึงทำให้เขามีเงินเพิ่มเป็น 570,000 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีเงินทุนสร้างครึ่งหนึ่งแล้ว ฮิลตันจึงเริ่มสร้างโรงแรมขึ้น แต่เมื่อสร้างโรงแรมเสร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง เงินทุนก็เหลือน้อยเต็มที เวลานี้ฮิลตันจึงเข้าไปหาเจ้าของที่ดินอีกครั้ง และหวังว่าเขาจะร่วมลงทุนด้วย ช่วยให้เขาสร้างโรงแรมนี้ได้สำเร็จ อีกทั้งยังรับปากว่าอำนาจทั้งหมดของโรงแรมแห่งนี้จะคืนให้กับฝ่ายตรงข้าม ตนขอเพียงอำนาจในการบริหาร พร้อมกับจ่ายเงินค่าเช่าให้กับฝ่ายตรงข้ามปีละ 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ
แน่นอนว่าเจ้าของที่ดินต้องตอบรับเงื่อนไขของฮิลตันอยู่แล้ว ต่อมาไม่นาน เขาใช้ชื่อของฮิลตันในการเปิดกิจการโรงแรมฮิลตัน (Hilton Hotel) จนถึงทุกวันนี้
"ราชาโรงแรม" ของฮิลตันได้ขยายไปแล้วทั่วโลก จากสินทรัพย์เริ่มแรกเพียง 5 พันดอลลาร์สหรัฐพัฒนาไปจนกลายเป็นพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ความสำเร็จของเขาก็คือเข้าใจอาศัยเงินของผู้อื่นเพื่องานของตัวเอง พึ่งพาอำนาจของผู้อื่นเพื่อช่วยเหลือตนเอง ความสามารถส่วนตัวมีอย่างจำกัด แต่ถ้าได้รับการช่วยเหลือจากผู้อื่น ก็จะสามารถพัฒนาไปอย่างฉับไว โดยอาศัยการเติบโตแบบก้าวกระโดด