เมื่อคนตัดสินใจจะทำอะไรขึ้นมาสักอย่าง มันจะคนอยู่ 2 ประเภท ได้แก่
คนที่เห็นด้วยกับคุณ กับ คนที่ค้านแบบหัวชนฝา
สิ่งที่เราทำไม่ว่าจะมีคนเห็นด้วยหรือไม่ ผมคิดว่าถ้ามันคือ สิ่งที่คุณอยากทำ ทำมันด้วยใจที่รัก ก็ไม่มีเหตุผลอื่นที่ดีกว่าคุณทำมันไปเถอะ
อย่าได้ไปสนใจเลย ผู้คนส่วนใหญ่วัดความสำเร็จจากสิ่งภายนอก อันได้แก่ ชื่อเสียง เงินทอง แต่ถ้าสิ่งเหล่านนี้บางทีมันอาจไม่ได้ตอบโจทย์ทั้งหมด แต่มันเป็นอะไรมากกว่านั้น มันคือความภาคภูมิใจของตัวคุณ หลายคนบอกว่า ต้องการความรู้ หากมองกันจริง ๆ
ความรู้คือสิ่งที่สร้างความสำเร็จ
หรือ
ความสำเร็จเกิดจากการเรียนรู้
บนโลกของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เป็นเรื่องธรรมดาที่บุคคลที่ร่ำรวย มีชื่อเสียง หรือบุคคลได้รับการยอมรับในแวดวงสังคมคือ เสียงที่ดังที่สุด ถ้าเราตัดเรื่องนี้ออกไป คุณจะเห็นว่ามนุษย์ทุกคน เท่าเทียมกันต่างก็มีความคิดเห็นในรูปแบบของตัวเอง ไม่มีอะไรถูก หรืออะไรผิด
การที่ใครคนหนึ่ง ตัดสินในความคิดของคุณ นั่นก็คือการแสดงความคิดเห็นของเขา สิ่งที่อยู่ในตัวเขา ไม่ใช่ตัวเรา
ผมเลยอยากสรุปให้คุณได้เข้าใจเลยครับว่า การทำงานอะไรก็ตามบนโลกใบนี้ ไม่ว่าคุณจะออกมาเรียกร้องหรือไม่ “ผู้คนก็ตัดสินคุณอยู่แล้ว”
เพราะฉะนั้นทำมันไปเถอะครับ ดีไม่ดีค่อยๆปรับ ค่อยๆแก้ไขกันไป
นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทุกท่าน ต่างก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าสินค้า/บริการ
ที่เขาขายผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร คุณต้องลองทำมันดูก่อน
ค่อยปรับ ค่อยแก้ไขมันไป ทุกอย่างไม่ได้เริ่มต้นจากความสมบูรณ์แบบสักหน่อย
คุณไม่ใช่นักโทษประหาร เพราะฉะนั้นจงทำในสิ่งที่คุณคิดว่ามันถูกต้อง รับฟังความคิดเห็นได้
แต่ก็ต้องเอามาวิเคราะห์แยกแยะให้ดี คนที่หวังดีก็มีคนที่ไม่หวังดีกับเราก็มี โลกมีสองด้านเสมอครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น