การสร้างบารมี

เมื่อวานผมได้มีโอกาสไปอ่านเรื่องประวัติ  พระพุทธเจ้าก่อนที่จะมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  รู้สึกว่าท่านเป็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ในเรื่องการสร้างบารมีจริงๆครับ  เราท่านทั้งหลายควรเอาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต  

บางครั้งเราก็วิ่งหาอะไรก็ไม่รู้จนลืมไปว่าชีวิตของเราแท้จริงต้องการอะไรกันแน่  สิ่งที่ต้องการมันอาจแค่ไปหล่อเลี้ยงแค่กายของเรา  แต่ไม่ได้หล่อเลี้ยงใจเราเลย  ฉะนั้นจงมีสติทุกขณะเวลาเพราะเราไม่รู้หรอกครับ เราจะจากโลกนี้ไปตอนไหน ทำทุกช่วงนาทีของเราให้ดีที่สุดและเป็นประโยชน์เราและประโยชน์ของท่านให้มากๆครับ

ส่วนตัวผมดีใจได้มากที่ได้เกิดมาพบพุทธศาสนา  ได้เรียนรู้วิถีชาวพุทธที่แท้จริง  การวิปัสนากรรมฐาน  การฝึกสติ  และการรักษาศีลและให้ทานบารมี  ดีใจจริงๆ  ขอบคุณพระพุทธเจ้าที่สอนในเรื่องนี้  ผมขอตั้งสัจจะอธิฐานว่าจะขอดำรงเพื่อศาสนานี้ตราบชีวิตนี้จะหาไม่ทุกชาติไปจนกว่าจะบรรลุที่สุดแห่งธรรม นั่นคือ นิพพาน  มาดูเรื่องราวของท่านที่เราท่านควรเอาเป็นแบบอย่างกันครับ

1. พระเตมีย์ (เนกขัมมะบารมี)  คติของเรื่องนี้ที่ได้คือการตั้งใจแน่วแน่ อยากจะได้สิ่งอันใดสมดังความตั้งใจอันนั้น ก็พยายามจนสำเร็จและได้เห็นความ อดทน อดกลั้นของพระเตมีย์ ซึ่งต้องทำ เป็นคนง่อย  คนใบ้ คนหูหนวกสารพัดเป็นเวลาตั้ง   10 กว่าปี หากเราจะตั้งใจแล้วพยายามทำก็จะต้องสำเร็จจนได้ ในวันหนึ่ง 

2.พระมหาชนกกุมาร (วิริยะบารมี)  คติของเรื่องที่ได้คือ  ขึ้นชื่อว่าเป็นคนแล้ว ทำอะไรต้องหมั่นพยายามทำไป จนกว่าชีวิตจะสิ้น ผลดีที่จะได้ก็บังเกิดขึ้นแน่นอน หาไม่แล้วมนุษย์จะพึงเห็นแต่ความเกียจคร้าน จงแน่วแน่มั่นคงจนถึงที่สุด

3.พระสุวรรณสาม  (เมตตาบารมี)  คติของเรื่องที่ได้คือ ความเมตตากรุณา ซึ่งก็จะเป็นคุณสมบัติช่วยให้เรารอดจากภัยอันตราย และไม่มีเวรไม่มีภัยด้วยประการต่าง ๆ หรือในทางธรรมเรียก  กัลยาณธรรม คือ เป็นธรรมอันดีงามที่จะเป็นเครื่องป้องกันมิให้ผู้อื่นทำร้ายได้ 

4.พระเนมิราช (อธิฐานบารมี) คติของเรื่องที่ได้คือ การตั้งใจมุ่งหวังสิ่งใดแล้วต้องทำให้สำเร็จผล อย่าทอดทิ้งเสียกลางคัน และมีอีกอย่างที่ไม่ควรลืมก็คือ ทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องต้องได้รับผลชั่วอย่างแน่นอน 

5.พระมโหสถ (ปัญญาบารมี)  คติของเรื่องที่ได้คือ มีปัญญาเหมือนมีทรัพย์ บุคคลหากมีแต่ทรัพย์แต่ไร้ปัญญาย่อมหาคุณค่าไม่ได้  ใครที่มีปัญญาไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็สามารถใช้ปัญญาในการแก้ปัญหาได้และใช้ปัญญาความรู้ในการหาทรัพย์มาได้  

6.พระจันทราช (ขันติบารมี)  คติของเรื่องที่ได้คือ ความโลภทำให้คนดีกลายเป็นคนชั่ว ความอาฆาตพยาบาททำให้เป็นคนเลว ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว ถึงแม้พระจันทราชจะได้รับภัยมาถึงตัวแต่พระองค์ก็ทรงมีความอดทนอดกลั้นจนถึงที่สุด 

7.พระภูริทัต  (บำเพ็ญศีลบารมี)  คติของเรื่องที่ได้คือ ความอดทน ตอนที่นายพรานนำมนต์อาลัมพายมาทำร้ายจับเอาไปทรมานทรกรรมจนแทบทนไม่ได้ เพราะอยากได้แก้วเท่านั้นเอง แต่ท่านก็มีความอดทนเพราะต้องการบำเพ็ญศีลบารมีไม่ต้องการทำบาปนับเป็นตัวอย่างที่ดียิ่งนัก

8.พระพรหมนารท  (อุเบกขาบารมี)  คติของเรื่องที่ได้คือ สิ่งที่ควรกำหนดคืออย่าถือว่าทำดีไม่ได้ดี ทำชั่วไม่ได้ชั่ว เพราะผลดีผลชั่วย่อมมีอยู่ สัตว์โลกทั้งหมดย่อมเป็นไปตามกรรม ที่ทำไว้ไม่มีใครฝืนไปได้ อยากจะได้ดีจงทำดี ถัาอยากได้ชั่ว ท่านจะพบผลชั่ว การคบหาสมาคม กับคนเลวแล้วก็จะทำให้เป็นคนเลวไปด้วย คบคนเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น

9.พระวิธูรบัณฑิต (สัจจบารมี)    คติของเรื่องที่ได้คือ ปัญญาของเจ้าวิธูร ในการสั่งสอนอรรถธรรมทำให้ตนรอดพ้นจากความตาย ได้รับความเลื่อมใสนับถือจากทุกคนทุกหมู่ทุกเหล่า ความเมตตาในดวงจิตของเจ้าวิธูร ทำให้มีหน้าตาผ่องใส ปราศจากความกริ้วโกรธ เป็นเหตุให้ผู้อื่นเมตตาตนด้วย การพนันเป็นเหตุแห่งหายนะ คือความเสื่อมในทุก ๆ ทาง ผู้หญิงเป็นบ่อเกิดแห่งความชั่วได้ทั้งมวล ถ้าไม่มีศีลธรรมประจำใจ เพียงเท่านี้ก็พอจะเป็นเครื่องบำรุงปัญญาของท่านได้

10.พระเวสสันดร (ทานบารมี)   คติของเรื่องที่ได้คือ การให้ทานท่ี่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าทานใดๆ  เพื่อหวังผลนิพพานให้ชาวโลกเราได้หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง มุ่งหน้าสู่นิพพานในชาติปัจจุบัน

เห็นไหมครับว่าการสร้างบารมี  มีอานิสงค์มากยิ่งใหญ่เพียงใด  บุคคลจะล่วงทุกข์ได้ก็ด้วยความเพียรจงตั้งใจมุ่งมั่นสร้างบารมีกันให้มากๆนะครับ  อย่าคิดเอาแต่ได้อย่างเดียว  จนลืมไปว่าในท้ายที่สุดเราต้องจากโลกนี้ไป จงเป็นคนที่มีคุณค่าและสร้างคุณประโยชน์ให้กับโลกใบนี้ จนเป็นที่น่ายกย่องแก่หมู่สัตว์ มนุษย์ เทวดา และพรหม ขอให้ทุกท่านจงเจริญในธรรมครับ  

ขอบคุณที่มา:http://www.larnbuddhism.com/buddha/story.html