พลังแห่งความเชื่อมั่น และแรงขับภายในตัวเราที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ให้กับโลกใบนี้ แรงขับภายในที่พร้อมจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เป้าหมายที่ชัดเจนและดูเป็นไปได้ยาก เพื่อท้าทายตัวเองนั่นแหละครับที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณ บนพื้นฐานของมนุษย์ทุกคนเกิดมาบนโลกใบนีี้มีเวลาเท่ากัน มีความสามารถก็ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ทำให้เขาไปได้ไกลกว่านั่นก็คือ ความมุ่งมั่นความปรารถนาที่จะเป็นที่หนึ่ง และเเรงขับจากภายในที่ต้องการผลักดันตัวเองไปสู่ฐานะความเป็นอยู่ และหน้าตาทางสังคมที่ดีกว่านี้
หลายท่านถอดใจไปกับการทิ้งความฝันของตัวเอง แล้วปล่อยให้ชีวิตตัวเองไปตามโชคชะตาฟ้าดินกำหนด โดยไม่เรียกร้องอะไรให้ตัวเอง คิดว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันก็ดีอยู่แล้ว แท้ที่จริงคุณกำลังทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว ทำร้ายจิตวิญญานและความฝันอันสูงสุดของชีวิตคุณ หลายคนเคยล้มจนไม่สามารถที่จะลุกขึ้นมาได้ แต่เพราะกำลังใจที่ฮึดสู้ ขออีกนิดหนึ่งซึ่งเป็นนิดเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงเราไปตลอดการ การทำอะไรอย่างสม่ำเสมอ และทำมากกว่าคนอื่นนิดหน่อยนี้แหละครับ มันมีโอกาสดีๆซ่อนอยู่มากมาย
โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทยเรา คนไทยโชคดีในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัจจัย 4 สภาพภูมิอากาศ และสภาพสังคมความเป็นอยู่ที่มีน้ำจิตน้ำใจต่อกัน เหล่านี้คือยุทธศาสตร์ของชาติไทย และคนไทยโชคดีที่สามารถสร้างธุรกิจของตัวเองได้ เนื่องจากปัจจัยหลายๆด้านที่เป็นองค์ประกอบเอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจ หลายๆประเทศในเอเชีย (ประเทศที่พัฒนาแล้ว) ตอนนี้ชะลอตัวอยู่เพราะรอประเทศพัฒนาอย่างเราๆ นั่นแหละครับ การที่เขาจะนำหน้าเราไปไกลเกิน ต้นไม้ใหญ่ก็ไม่อาจต้านลมแรงได้ ฉะนั้นก็ก็ต้องโตไปพร้อมๆกันนั้นแหละครับ เห็นไหมว่าเรามีแต่ได้กับได้ ถ้าคุณรู้จักมองหาโอกาส โอกาสก็มีอยู่ทุกที่และพร้อมจะวิ่งเข้าหาคุณ
หลายคนโดยเฉพาะคนไทยชอบปิดกลั้นโอกาสตัวเอง ไปให้ข้อจำกัดกับชีวิต บางทีก็ชอบดูถูกคนไทยด้วยกันเอง ลามไปถึงดูถูกประเทศที่ด้อยกว่าตนด้วย สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่างครับ เวลาเห็นคนอื่นทำดี ได้ดี เก่งมีความสามารถ คนไทยควรเปลี่ยนทัศนคติใหม่ด้วยการสนับสนุนบุคคลเหล่านั้น เพราะเขาคือกำลังสำคัญของชาติเรา เขาไปได้ไกลก็นำความเจริญและความเป็นอยู่ที่ดีมาสู่ภาพรวมของประเทศเราด้วย ไม่ใช่เอาเวลามาอิจฉากัน ขัดขากันจนไม่เป็นอันทำมาหากิน เลิกและเปลี่ยนใหม่ดีกว่า เพื่อประเทศไทยของเราในอนาคต เราจะได้เห็นลูกหลานของเรามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีน้ำใจไมตรีต่อกัน ประเทศชาติก็น่าอยู่ ผู้คนก็หลั่งไหลเข้ามาเพราะเป็นประเทศต้นแบบ แค่คิดมันก็สนุกไม่น้อยแล้วครับ
ผมในฐานะคนไทยคนหนึ่ง รูั้สึกภูมิใจและสำนึกรักในประเทศมาก เราในฐานะคนรุ่นใหม่ก็ต้องการที่จะเติมเต็มให้ประเทศนี้ อยากเห็นประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว และคนในสังคมก็ยังมีน้ำใจไมตรีต่อกัน "สยามเมืองยิ้ม" เป็นอัตลักษณ์ ที่ประกาศให้โลกได้รับรู้และภูมิใจในชาติบ้านเมืองของเรา สังคมยุคใหม่ ต้องกล้าที่จะคิดใหม่ทำใหม่ เเละเปลี่ยนแปลงเพื่อส่วนรวมมากขึ้น ฝึกคิดในทางกลับกัน อย่าคิดแต่เอาแต่ได้ โดยไม่แบ่งอะไรให้ใคร ขอฝากไว้เป็นข้อคิดเตือนใจนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น