ผมว่าคนไทยน่าสงสารนะครับ สังคมไทยปัจจุบันนี้เปลี่ยนไปเยอะมาก เราเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวกันมากขึ้น ทุกคนต่างต้องการเป็นผู้รับ และไม่ต้องการเป็นผู้ให้กันเลย เราโทษทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเรา แท้ที่จริงธุรกิจมันก็เป็นแบบนี้ของมัน มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่และก็ดับสลายไปเป็นของธรรมดาของโลก เราแข่งขันกันในเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์ ผมมาดูในปัจจุบันนี้ วัยรุ่นไทยแทบจะไม่รู้จักห้องสมุดกันเลย ผมไม่ปฏิเสธนะครับว่าเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเราเป็นอย่างมาก
ทุนนิยมคือระะบบที่มนุษย์เราต้องการจริงหรือ ถ้ามันดีจริงทำไมทุกวันนี้ทำไมความเหลี่ยมล้ำในสังคมถึงมีมากขึ้น และนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนหาแก่นสารไม่เจอ ประเทศไทยเราแทบไม่มีการพัฒนาอะไรใหม่ๆทางด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี หรือภาษาต่างประเทศ สิ่งที่เราไปโฟกัสคือ สร้สงระยบการเมือง การศึกษา ไว้เป็นเครื่องประดับบารมี แทนที่จะนำมาสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติจริงๆ มองไปทางไหนชีวิตเรามีแต่กับดักชีวิต เราใช้ชีวิตแบบว่าไม่มีวันตาย เราทำตัวเองเหมือนหุ่นยนต์ไปทุกที
เงิน คือ เครื่องมือวัดความสำเร็จ โดยไม่สนใจหรอกว่าจะได้มาด้วยวิธีใด ก็อย่างว่าละเราเกิดเป็นมนุษย์การจะมาหันหลังเข้าป่าแบบไม่แคร์โลกคงเป็นไปได้ยาก เรื่องจิตสำนึกเป็นสิ่งที่ที่ยากจะเรียนรู้และเข้าใจได้ได้ในทันที. เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมมนุษย์จะตาสว่างกับเรื่องพวกนี้เอง สิ่งสมมุติที่สร้างมันขึ้นมา ให้ใจเราโลภมากอยากได้ทุกอย่างแบบไม่รู้ กลียุคใกล้เข้ามาแล้วครับ ทุกอย่างพระพุทธองค์พูดไว้เมื่อสองพันปีมาแล้ว จริงยิ่งกว่าจริงเสียอีก ยังไงก็ขอให้ประเทศไทยผ่านพ้นมันไปได้นะครับ อยากให้ทุกท่านหันหาธรรม มากกว่าสิ่งเร้าภายนอก เพราะยังไงซะมีปัญญาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน เวลาตกทุกข์ได้ยากยังไงคนมีธรรม มีปัญญาเป็นแสงสว่างก็จะผ่านมันไปได้เสมอครับ ก็ขอฝากไว้ด้วยนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น